อย่างที่ทราบกัน การใช้เทคนิค Cocky+Funny นั้นมันได้ผล คําถามก็คือจะต้องทํายังไง สาวๆถึงจะมองว่าเรา Cocky+Funny อย่างแรกที่สําคัญก็คือ คิดว่าเราจะต้องสนุกไปกับมันแน่นอน เวลาเราอยู่กับสาวๆ ลืมความเครียด ออกไปให้หมด สนใจอยู่แค่ความสนุกในการจีบสาวเท่านั้น แค่พูดล้อเลียนเธอบ้าง ประชดบ้าง แซวบ้าง ยั่วอารมณ์เธอบ้าง เธอจะรู้ว่าคุณไม่ซีเรียสและจะรู้สึกสนุกไปกับคุณ เธอจะคอยสนใจว่าคุณจะพูดอะไร ต่อไปอีกอีก จะแซวเธออีกรึเปล่า
ความสนุกต้องมาเป็นอันดับแรกในความคิดคุณ และ concept ของมันก็คือการแสดงว่า คุณมั่นใจในตัวเองและจะล้อเธอเมื่อมีโอกาส (ไม่ใช่ยั่วโมโห) คุณคิดว่าคุณนี่แม่ เจ๋งสุดๆ แต่คุณก็เป็นคนตลกเพื่อที่เธอจะได้หัวเราะ
ตัวอย่าง Cocky+Funny #01
เธอ: จริงเหรอ ? ทําไมอ่ะคะ
คุณ: ก็ตาลได้ออกมาเที่ยวกับ (ชื่อคุณ) ไง (ตามด้วยยิ้มแบบโคตรมั่นใจในตัวเอง)
เธอ: ยิ้มกลับ และหัวเราะคิกๆ
ส่วนอันนี้เวลาที่คุณกําลังชวนสาวออกเดท
คุณ: วันเสาร์นี้เราควรจะไปหาที่ทานข้าวแล้วนั่งคุยกันดีกว่า (ชื่อคุณ) จะขับรถไปรับละกัน เพราะถ้า(ชื่อคุณ)เกิดไม่ชอบฝนขึ้นมา (ชื่อคุณ)จะได้ ขับ รถหนีฝนไปได้เลย (ตามด้วยยิ้ม)
เธอ: อึ้งเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มออกมา
พอจะเข้าใจใช่มั้ยครับ การพูดแบบนี้จะได้ผลมากถ้าคุณกับเธอรู้จักกันบ้างแล้ว เพราะถ้าพูดกับสาว ที่เรายังไม่รู้จักมากบางครั้ง อาจจะทําให้เธอโมโหได้
แต่จริงๆแล้วถ้าพูดได้อย่างถูกวิธีก็สามารถทําได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม อย่ารอที่จะใช้ Cocky+Funny ถ้าไม่ทําตัวให้ Cocky+Funny ตั้งแต่แรกคุณจะกลายเป็นคนน่าเบื่อและโอกาสที่เธอจะพูดประโยคยอดฮิต “เราเป็นเพื่อนกันเถอะ” จะมาเร็วกว่าที่คิด
การพูดนั้นควรจะสบายๆ ตลก และเบาสมอง มุ่งความสนใจไปที่เธอแล้วทําให้เธอหัวเราะ เธอจะไม่สามารถต่อต้านคุณได้ และถ้าคุณทําให้เธอหัวเราะตัวเธอเองได้ คุณก็สําเร็จไปแล้วกว่าครึ่ง
ตัวอย่าง Cocky+Funny #02
คุณ: สําหรับเธอไม่มี (ยิ้ม) อันนี้ใช้สําหรับเวลาคุณบังเอิญเจอเธอหลายครั้งในวันเดียวกัน
คุณ: คือ ผมรู้ว่านะว่าผมหน้าตาดีแต่คุณก็ไม่ควรเดินตามผม มาแบบนี้ ควรจะใช้วิธีอื่นจีบผมจะดีกว่านะ (ยิ้มมั่นใจ)
เธอ: หัวเราะ
อันนี้เราใช้ตอนไปเที่ยวที่คลับแห่งหนึ่ง ระหว่างที่ผมกับเพื่อนกําลังเข้าแถว ตรวจบัตรประชาชนอยู่นั้น มีสาวสองคนมาขอแซงคิว ผมก็บอกโอเคๆ พวกเธอเอาบัตรออกมา
“เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนพวกคุณดูเด็กเกินไปที่จะเข้าได้ ไหนเอาบัตรมาให้ผมดูซิ” พูดทีเล่นทีจริง สาวคนนึงยิ้มๆก่อนที่จะเล่นด้วยแล้วยื่นบัตรให้ผม
“อืมม อันนี้บัตรปลอมแน่ๆ แล้วของคุณล่ะ” เธอเขิน ลังเลเหมือนจะไม่ให้แต่เพื่อนเธอก็หยิบบัตรจากมือเธอมาให้ผม เธอไปทําผมมาสีออกม่วงๆแดง ผมเลยพูดว่า “โห! อันนี้ยิ่งปลอมเข้าไปใหญ่ คุณไม่ใช่คนผมดําที่อยู่ในรูปนี่ อย่ามาหลอกกันดีกว่า” พูดอย่างจริงจังแต่ก็ยิ้มให้เธอรู้ว่าผมล้อเล่น
สาวสองคนนั้นก็ขํา ผมเลยได้รู้จักเธอทั้งคู่ แล้วคืนนั้นเราก็เลยนั่งโต๊ะเดียวกัน
เวลาชวนสาวออกเดท
คุณ: วันพรุ่งนี้จะมารับไปดูหนัง แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าจะไม่มีการจับมือกันในโรงนะ คิอพี่เบื่อมากเลยเวลาสาวๆไปดูหนังกับพี่แล้วชอบมาแอบจับมือพี่ในโรง
เธอ: (ขํา) โห ถ้างั้น(ชื่อเธอ)ก็ต้องระงับใจตัวเองแย่เลยละสิ
คุณ: ถูกต้อง และไม่มีการกอดหรือจูบกันด้วย เข้าใจมั้ย เธอ: หัวเราะไม่หยุด
กฎ 3 วินาทีและความสําคัญของการสบตา
โอเค นี่คือสิ่งที่ผู้ชายหลายคนกําลังทําผิดพลาดอย่างมาก ในการที่จะเข้าไปขอเบอร์หญิง พวกเค้าเห็นสาวคนที่หมายปองแล้ว แต่ยังไม่กล้าที่จะเข้าไปคุย เธอหยุดแวะคุยกับเพื่อนของเธอ เค้าเริ่มคิดที่จะหาวิธีเข้าไปจีบ
“อืม ทําไงดีวะ จะพูดยังงัยดี ถ้าเริ่มด้วยเธอน่ารักจัง ขอเบอหน่อยสิ ไม่ได้ๆ ไม่เวิรค์วะ แถมตอนนี้ยังไม่กล้าด้วย เดี๋ยวรออีกหน่อยดีกว่าเผื่อจะมีโอกาส”
เค้าแอบมองเธออยู่ห่างๆ รอโอกาสที่ดีและความกล้าให้มาถึง เธอบายบายเพื่อนที่คุยด้วย แล้วไปหยุดแวะซื้อนํ้า เค้ายังคงมองเธออยู่ เธออยู่คนเดียว เธอเริ่มสังเกตุแล้วว่ามีใครบางคนมองมาที่เธอ แต่เธอก็กินนํ้าต่อไป อืม เธอกินนํ้าหมดแล้ว ความกล้าเค้าก็ยังไม่มา ซักพักเธอก็เจอเพื่อนกลุ่มหนึ่งแล้วก็เดินไปกับกลุ่มนั้น ห่างไปเรื่อยๆ ห่างออกไป ห่างออกไป ห่างออกไป
ไม่ได้ๆๆ เธอกําลังจะไปแล้ว เค้ารีบวิ่งไปหาเธอแล้วตัดสินใจคุยกับเธอ เธอปฎิเสธแล้วเดินจากไป โอกาสที่ดีไม่เคยมาถึง
กฎ 3 วินาทีนั้นถือว่าเป็นสิ่งสําคัญมาก ในการเป็น ดอน ฮวน เมื่อคุณพบสาวที่หมายปองและเธอว่างที่คุณสามารถเข้าไปคุยได้ คุณต้องเข้าไปคุยกับเธอภายใน 3 วินาที หรือเมื่อเธอสังเกตุเห็นคุณและเธอว่าง คุณต้องเข้าไปภายใน 3 วินาที ทําไมต้องเป็น 3 วินาที ! ก็เพราะว่าภายใน 3 วินาทีนั้นสมองคุณไม่สามารถที่จะมาคิดเรื่องอะไรได้ทัน คุณจะไม่ คิดเรื่องกลัวการเข้าไปคุยกับเธอ ถ้ามัวแต่รอโอกาสที่ดีที่จะมาถึง คุณก็จะพาลคิดไปถึงเรื่องต่างๆนาๆ เธอจะคุยดีกับเรามั้ย เราหล่อพอเปล่าวะ ถ้าเธอมีแฟนแล้วล่ะ สมองคุณก็จะสรรหาเรื่องต่างๆมาเพื่อ ปฎิเสธตัวคุณเอง ความกลัวจะเริ่มมากขึ้นๆ เรื่อยๆ และในที่สุดคุณก็จะยอมแพ้ใจตัวเอง และถ้าในระหว่างที่คุณลังเลอยู่นั้นเธอรู้สึกได้ว่า คุณกําลังแอบมองเธออยู่แต่ไม่กล้าเข้าไปหาเธอ เกมก็โอเวอร์! ผู้หญิงไม่ชอบผู้ชายที่ขาดความมั่นใจ จบตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม! หรือหนักกว่านั้นเธออาจะคิดว่าคุณ เป็นพวกโรคจิต ชอบตามตื้อ!
และถึงแม้ว่าในที่สุดคุณจะรวบรวมความกล้าเข้าไปคุยกับเธอจริงๆ แต่เธอรู้ว่าคุณมองมาตั้งนานแล้ว คุณก็ยัง จะมีโอกาสล้มเหลวสูงมาก เพราะอะไรหรือครับ
เพราะมันไม่เป็นธรรมชาติ! คุณไปฝืนมัน คุณไปรอให้ความกล้ามาถึง ไปรอให้มีโอกาสที่ดี ในเวลาที่คุณเข้าไปคุยนั้น ความกลัวได้ครอบงําคุณหมดแล้ว กลัวเธอไม่ชอบ กลัวพูดไม่ดี กลัวพูดผิด กลัวผิดหวัง กลัวไปหมด! คุณไม่ได้ทําตัวเป็นธรรมชาติ
ที่ผมยกตัวอย่างข้างบนมาให้ดูนี้ ก็เพราะมันคือตัวผมเองเมื่อก่อนที่ยังไม่ได้รู้ความสําคัญของ กฎ 3 วินาที แต่แล้วผมก็เข้าใจความสําคัญของมัน
หลังเลิกเรียนของเย็นวันหนึ่ง ผมโทรศัพท์หาเพื่อนซี้เพื่อที่จะกลับบ้านกับมัน แล้วผมกับเพื่อนมาเจอกัน ที่ประจํา เราเดินไปที่ทางออกเพื่อที่จะไปที่จอดรถ ข้างๆเราสองคนนั้นมีคนเดินรายล้อมไปหมด ซึ่ง เป็นเรื่องปกติธรรมดาของทุกเย็นอยู่แล้ว ผมกับเพื่อนก็ไม่ได้สนใจอะไร เรายังคุยกันเรื่อยเปื่อย เราเดินกันมา จนจวนจะถึงทางออก จังหวะที่ผมหันไปด้านซ้ายเพื่อจะคุยกับเพื่อนนั่นเอง ผมได้หันไปเห็นสาวสวยคนนึง เดินอยู่คนเดียว “อ้าว! น้อง…นี่หว่า” ผมคิดในใจ และจังหวะเดียวกันนั้นเองเธอก็เผอิญหันมาสบตากับบผมพอดี เราสบตากันไม่ถึงครึ่งวินาที เธอไม่ยิ้ม ทําหน้าเฉยๆ
หันไปมองทางอื่น แล้วเธอก็เดินแซงผมกับเพื่อนไป
“เฮ้ย! นั่นมันน้อง…เว้ย แม่_ น่ารักโคตร ขนาดข้างหลังยังสุดยอดเลย” เพื่อนผมพูดออกมา
“อืมมม ดูดีๆ รอแปปนะ” ผมบอกกับเพื่อนอย่างนั้นผมเร่งเดินเพื่อที่จะให้ทันเธอ ในหัวก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอ แต่นั่นก็ไม่ได้ทําให้ผมลังเล เพราะผมรู้แล้วว่าเธอเห็นผมแล้ว เธอรู้ว่าวินาทีนั้นผมอยู่ตรงนั้น
“คุณๆ ขอโทษครับ” ผมพูดอย่างสุภาพแต่ด้วยนํ้าเสียงที่หนักแน่น เธอไม่ได้หยุดเดินแต่หันมาแล้วก็ทําหน้าประมาณว่า “อ๋อ ที่สบตากันเมื่อกี้”
“คุณชื่ออะไรครับ” ผมถามทั้งๆที่รู้ชื่อเธออยู่แล้ว เธอเริ่มยิ้มเขินๆแบบรู้ตัวว่าผมกําลังจะเข้าไปจีบ แล้วก็พูดออกมา
“ชื่อ…คะ” “แล้ว…เบอร์โทรศัพท์เบอร์อะไรครับ”
เธอทําหน้าลังเลเหมือนไม่แน่ใจว่าจะให้ดีไม่ให้ดี ผมจึงพูดต่อไป”อืม ผมคิดว่าถ้า…ให้เบอร์ผมมาเราคงมีโอกาสทําความรู้จักกันมากกว่าแค่สบตานะครับ” ตามด้วยยิ้มแบบมั่นใจ เจอชอตนี้เข้าไป เธอไม่สามารถต้านได้อีกต่อไป ให้เบอร์ผมมาโดยไม่ลังเล
ผมเดินกลับออกมาราวกับว่าตัวเองหล่อที่สุดในประเทศไทยและมีธุรกิจพันล้านอยู่ในทวีปยุโรป
“คุณนี่เล่นตัว top เลยนะ คุณพูดอะไรวะ ทําไมน้อง…ถึงให้เบอมา” เพื่อนผมพูดเมื่อผมเดินกลับมา
“ก็บอกไปธรรมดาว่าอยากรู้จัก”
“ทําไมมันง่ายหยั่งงั้นวะ ปกติน้อง..ไม่ค่อยให้เบอใครง่ายๆนะเว้ย”
“เหรอ ไม่รู้ดิผมก็แค่ทําตัวให้เป็นธรรมชาติ อิอิ”ผมตอบมันไป
นับตั้งแต่วินาทีแรกที่ผมสบตาจนถึงวินาทีที่ผมตัดสินใจเข้าไปคุยกับเธอ ทั้งหมดอยู่ภายใน 3 วินาที ถามว่าเทคนิค3วินาทีนี้ใช้ได้ผลทุกครั้งเลยหรือ? ไม่ครับเทคนิคนี้ไม่ได้ผลทุกครั้งหรอก และถ้าจะพูดกันอย่างตรงๆแล้ว ไม่มีเทคนิคไหนในโลกที่ได้ผล 100% หรอก ไม่เคยมีมาเลยและจะไม่มีต่อไป แต่เทคนิคนี้ก็ใช้ได้ผลกับคนส่วนใหญ่ คุณลองคิดดูให้ดี
ใน 3 วินาทีคุณไม่สามารถคิดเรื่องความกลัวได้ สมองคุณยังไม่พร้อมที่จะคิดเรื่องกลัว คุณจึงไม่แสดงความเครียดออกมา ให้เธอเห็นใน 3 วินาทีเธอไม่สามารถจะมาคิดเรื่องปฎิเสธคุณได้ทัน สมองเธอยังไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน เธอไร้เกราะป้องกัน คุณกับเธอสบตากันโดยบังเอิญ ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติของมัน มนุษย์ไม่อาจฝืนธรรมชาติได้ นี่แหละพลังของกฎ 3 วินาทีและการสบตา
Social Proof ท่าไม้ตายของดอนฮวน
Social Proof นั้นเป็นอาวุธสุดยอดที่ ดอน ฮวน จะมีได้ เป็นท่าไม้ตาย อันดับหนึ่งที่ไม่มีเทคนิคใดจะมาเทียบ เป็นแม่เหล็กที่จะคอยดูดสาวๆรอบตัว ให้มาสนใจคุณ พลังของ social proof นั้นมากมายมหาศาล มันทําให้ ดอน ฮวน เหนือกว่า ดอน ฮวน หรือแม้กระทั่ง nice guy ก็สามารถทําสกอร์ได้ถ้าเค้ามี Social Proof นั้นไม่ใช่ว่าจะทําให้สาวมาชอบคุณเฉยๆ เท่านั้น แต่มันยังทําให้สาวมาชอบทีละหลายๆ คนอีกด้วย
มีอยู่ครั้งนึงผมได้ไปเที่ยวผับกับสาวที่ผมเคยขอเบอร์มา สมมุติว่าชื่อเอ๋ ผมไปรับเธอที่บ้าน เธอก็บอกว่าเพื่อนเธอไปรออยู่ที่ร้านแล้ ว4-5 คน หญิงล้วน และผมก็ยังไม่เคยเจอเพื่อนเธอเลย เมื่อไปถึงผมก็ทักทายพวกเธอ และคุยสนุกเฮอา ตามประสา ผมบังเอิญไปสะดุดตากับสาวคนนึง ซึ่งไม่ต้องเดาเลยว่าเธอคนนั้น สวยที่สุดในกลุ่ม ผมสังเกตได้เลยว่าสาวคนที่สวยที่สุดนั้นไม่มีท่าว่าจะมองมาทางผมเลย ผมพยายามสบตาแต่เธอก็ไม่เคยมาสบตากับผมเลย สาวคนอื่นๆ ก็คุยสนุกสนานกับผม ขําไปกับมุขของผม แต่คนนี้แม้แต่มองยังไม่มอง อืมมม ไม่เป็นไร เป็นเรื่องธรรมดามากที่สาวสวยจะเล่นตัว ผมคิด ผมก็สนุกสนานของผมต่อไป เมื่อผับปิด ผมก็ไปส่งสาวๆทีละคนๆ จนกระทั่งเหลือแค่เก๋ และคนที่สวยที่สุด ทางที่ผมขับไปนั้นมันผ่านบ้านของเก๋ก่อน ผมจึงส่งเธอลงที่บ้าน พร้อมกับบอกว่าวันหลังจะพาไปเที่ยวใหม่ ในใจก็คิดว่าเพื่อนเธอน่ารักดี ขอจีบหน่อยละกัน หึหึ
ตอนนี้ผมก็อยู่กับสาวสวยคนนั้น สองต่อสอง เธอกับผมจึงต้องพูดกันโดยปริยาย ผมถามชื่อเธอ ถามนู่นถามนี่ และผมก็ถามเธอว่าเธอมีแฟนยัง เธอบอกว่ามีแล้ว และถามผมกลับแบบเสียงแข็งๆ
“แล้วพี่มีแฟนยัง มาจีบเอ๋เหรอเนี่ย”
“เปล่า มีแล้ว นั่นไง”ผมชี้ไปข้างหน้าเธอซึ่งมีรูปสติกเกอร์ที่แฟนกับผมไปถ่ายด้วยกันมาติดอยู่
“ไหนๆ อันนี้เหรอ” เธอโน้มตัวไปดูข้างหน้า
“โห.. สวยจัง ทําไมแฟนพี่ถึงสวยอย่างนี้ล่ะ อย่างกับดารา”เธอเริ่มงง
“ก็เป็น pretty ไม่สวยได้งัยล่ะ”แล้วผมก็หันไปยิ้มแบบโคตรมั่นใจให้เธอ
“จริงเหรอ!! (ชื่อเธอ) ก็เป็น Pretty เหมือนกันนะ ทําอยู่ (โทรศัพท์ค่ายนึง) แล้วแฟนพี่ทําอยู่ที่ไหน?”
ผมก็ตอบเธอไป ตอนนี้ Bitch Shield เธอโดนทําลายไปหมดแล้วด้วยรูปถ่ายใบเดียว
“มีแฟนสวยแล้วยังมาจีบเก๋อีกนะ เจ้าชู้จริงๆ ผู้หญิงไม่ชอบคนเจ้าชู้นะ”
เธอพูดแล้วก็ยิ้มให้ผม ผู้หญิงปากกับใจไม่เคยตรงกัน จากนั้นเธอก็คุยกับผมอย่างเป็นกันเองมาก แล้วผมก็ใช้เทคนิค ดอน ฮวน ต่างๆจนเธอเริ่มเปิดใจให้ผม จนกระทั่งถึงบ้านเธอ เราแลกเบอร์โทรศัพท์ กัน อีกสองวันเธอโทรมาหาบอกว่าอยากให้ผมไปงานวันเกิดเพื่อนเธอกับเธอหน่อย
เธอแนะนําให้ผมรู้จักกับเพื่อนเธอ งานก็ดําเนินไปเธอก็นั่งคุยกับผม บอกว่าจริงๆ เธอกับแฟนก็ยังไม่ได้จริงจังอะไรมาก แค่ดูๆกันอยู่ เธอบอกว่าเธอไม่อยากแย่งใครแต่ แต่เธอห้ามใจไม่ได้ เธอบอกไม่รู้ว่าทําไมเธอชอบผม เธอแค่รู้สึกเท่านั้นเอง เธอไม่รู้แต่ผมรู้ social proof ไง ไม่เห็นยาก แล้วผมก็มีแฟนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนในคืนนั้น
Social Proof มันคือเวทย์มนต์หรืออะไรกัน..